สวัสดีครับ
เคยเจอความรักที่ใช่ แต่เหมือนมีบางอย่างที่ทำให้เราเดินด้วยกันได้ไม่สุดไหมครับ?
ไม่รู้จะอธิบายยังไง ขออนุญาตลงพื้นที่ระบายนะครับ
//วายนะครับ
ผมกับแฟนผมคบกับมานานระดับนึงแล้วครับ
โดยส่วนตัวให้นิยามความรักผมคือ ทำให้คนที่เรารักมีความสุขที่สุด
ทุกวันที่อยู่ด้วยกันก็ราบรื่นดี เข้าใจกันดี รู้ความต้องการกันและกัน
แต่การเรียนทำให้เราต้องแยกกันอยู่คนละที่
ด้วยระยะทางก่อเกิดเป็นความเหงา
ผมอนุญาตให้เค้ามีใครได้ เพราะผมต้องการให้เขามีความสุขที่สุด
ผมไม่แน่ใจว่าเป็นสิ่งที่ควรไหม แต่รู้ว่าถ้าเขาสุขผมก็มีความสุขด้วย
จนวันนึงเขาขอคบแฟนใหม่อีกคนแต่สัญญาจะดูแลผมเหมือนเดิม
ผมตกลง... เขาเล่าให้ผมฟังทุกเรื่องที่เค้าอยู่กับแฟนใหม่ ทุกเรื่องจริงๆ
ทะเลาะกัน ง้อกัน ไปนอนด้วยกัน ไปมีอะไรกัน โกรธกัน เลิกกัน
ผมไม่โกรธและไม่รู้สึกอะไร ผมก็ดีใจที่เขามีความสุข
แต่ก็ดีใจที่เขาเลิกกัน เสียใจด้วยถ้าเขาเหงา
ทุกอย่างวนลูปไปเรื่อยๆ เขาผ่านคนอื่นมาก็หลายคน
ผมก็ยอมรับว่าบางครั้งก็เหงา แอบคุยกับคนอื่นบ้าง
แต่ไม่เคยสานสัมพันธ์อะไรต่อ เพราะผมรู้ว่าเขาคือคนเดียวของผม
มีบ้างที่แอบน้อยใจเพราะจริงๆแล้วผมไม่ใช่สเปคของเขา เขาก็ไม่ใช่สเปคผม
เรามีอะไรกันน้อยมาก เหมือนเขาจะมีความสุขกับการไปมีอะไรกับคนอื่นในแบบที่เขาชอบมากกว่า
แต่เรื่องความสัมพันธ์ทุกอย่างมั่นคง ไม่มีปัญหาอะไร
ผมยอมไม่ตอบสนองความต้องการตัวเองกับใคร เพราะผมทำไม่ได้จริงๆ
วางแผนว่าวันนึงเราจะอยู่กันแบบครอบครัว อนาคตดูสดใสดีในระดับที่คนอื่นอิจฉา
(ผมคิดว่าอย่างนั้นนะ)
พอทำงานก็ได้ทำงานคนละที่ ระยะทางยังคงเป็นปัญหา
เขาก็ยังมีอะไรกับคนอื่นอยู่บ้างแต่น้อยลงเพราะผมเริ่มแสดงท่าทีไม่พอใจบ้าง
แต่ก็ยังไม่ห้าม เพราะผมรู้ว่าเขาเหงา แต่ผมก็เหงา
บางครั้งการไปหากันผมก็อยากมีความสุขกับเขา อยากมีอะไรกันบ้าง
เขาอิดออด แล้วยอมรับว่าเขากลัวติดเชื้อ ไม่อยากให้เรามาเสี่ยงด้วย
แต่ทุกอย่างจะยังเหมือนเดิม
ผมเข้าใจและบอกให้ไปตรวจซะจะได้รู้ไปเลยว่าเป็นหรือไม่ จะได้มาแก้ปัญหากัน
เขาไม่ยอมเพราะกลัวถ้าติดเชื้อจริง อนาคตที่เขาวางไว้จะเสียหมด
รวมถึงอนาคตกับผมด้วย
เขาขอเวลาถึงวันที่โรคเริ่มแสดงอาการ ปฏิเสธการยอมรับความจริง กลัวไปก่อน
เหลือผมที่ยังยืนอยู่ตรงกลาง ตรงที่ผมไม่ยอมถอยกลับ แต่ก็ไปด้วยกันได้ไม่สุด
ปฏิเสธไม่ได้ว่าการมีอะไรกันก็เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตครอบครัว แต่สำหรับผมมันจะไม่มีอีกแล้ว
ถึงคราวที่เขาเป็นฝ่ายยอมให้ผมไปมีอะไรกับใครได้ แต่สัญญาว่าทุกอย่างจะเหมือนเดิม
ผมไม่ยอม จะไปมีอะไรกับคนที่เราไม่รักได้ยังไง แล้ว"เรา"ล่ะ จะทำอย่างไรกันดี?
...ไม่มีคำตอบ...
เขาให้คำตอบตัวเขาเองได้แล้ว แต่ของผมมันยังไม่มีคำตอบ
เพราะผมไม่ยอมถอย แต่เหมือนว่าเรามาด้วยกันมากที่สุดเท่านี้
อยู่ที่ผมจะยืนต่อหรือถอยกลับ ผมยังหาคำตอบไม่ได้
ทุกวันนี้ความสัมพันธ์ก็เหมือนจะเหมือนเดิม
แต่บางครั้งก็รู้สึกว่าเขาให้ความสำคัญกับคนอื่นมากกว่าเรา
บางครั้งผมไปหาก็มีคนอื่นอยู่ในห้องเขา
รู้สึกน้อยใจ แต่ไม่รู้จะทำยังไง เพราะผมยังเหมือนเดิมและก็ยังรู้สึกว่าเขาก็เหมือนเดิมกับเรา
แค่มีอะไรเพิ่มขึ้นมาเท่านั้นเอง
ผมยอมรับว่ามีคนรอผมอยู่ เป็นผู้หญิงคนนึงที่เราต่างคนรู้ใจกันและกันช้าไปหน่อย
ทุกวันนี้ผมก็ยังชอบเขาอยู่ แต่รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้
ผมไม่อยากทำร้ายเขา เพราะผมเองที่เลือกเดินมาบนเส้นทางนี้แล้ว
มีบางครั้งที่รู้สึกสับสน อยากมีครอบครัว
แต่เราก็ได้แต่ย้ำตัวเองว่าเราเลือกเองและไม่ควรถอยกลับ
ทุกวันนี้ก็มีติดต่อกันบ้าง เสียดายที่รู้ใจกันช้าไป
กระทู้นี้ขอแค่ให้ระบายความสับสนบางอย่างในใจ
ส่วนคำตอบผมจะต้องหาเองจนกว่าผมจะเจอ
ปล.ผมอาจจะบ้าที่ทำอะไรแบบนี้ผมก็ยอมรับ
บางทีหัวใจมันอธิบายเรื่องอะไรแบบนี้ไม่ได้เหมือนกันนะครับ
กระทู้ระบาย สับสนกับความรักที่ใช่แต่ทำได้ไม่สุด
เคยเจอความรักที่ใช่ แต่เหมือนมีบางอย่างที่ทำให้เราเดินด้วยกันได้ไม่สุดไหมครับ?
ไม่รู้จะอธิบายยังไง ขออนุญาตลงพื้นที่ระบายนะครับ
//วายนะครับ
ผมกับแฟนผมคบกับมานานระดับนึงแล้วครับ
โดยส่วนตัวให้นิยามความรักผมคือ ทำให้คนที่เรารักมีความสุขที่สุด
ทุกวันที่อยู่ด้วยกันก็ราบรื่นดี เข้าใจกันดี รู้ความต้องการกันและกัน
แต่การเรียนทำให้เราต้องแยกกันอยู่คนละที่
ด้วยระยะทางก่อเกิดเป็นความเหงา
ผมอนุญาตให้เค้ามีใครได้ เพราะผมต้องการให้เขามีความสุขที่สุด
ผมไม่แน่ใจว่าเป็นสิ่งที่ควรไหม แต่รู้ว่าถ้าเขาสุขผมก็มีความสุขด้วย
จนวันนึงเขาขอคบแฟนใหม่อีกคนแต่สัญญาจะดูแลผมเหมือนเดิม
ผมตกลง... เขาเล่าให้ผมฟังทุกเรื่องที่เค้าอยู่กับแฟนใหม่ ทุกเรื่องจริงๆ
ทะเลาะกัน ง้อกัน ไปนอนด้วยกัน ไปมีอะไรกัน โกรธกัน เลิกกัน
ผมไม่โกรธและไม่รู้สึกอะไร ผมก็ดีใจที่เขามีความสุข
แต่ก็ดีใจที่เขาเลิกกัน เสียใจด้วยถ้าเขาเหงา
ทุกอย่างวนลูปไปเรื่อยๆ เขาผ่านคนอื่นมาก็หลายคน
ผมก็ยอมรับว่าบางครั้งก็เหงา แอบคุยกับคนอื่นบ้าง
แต่ไม่เคยสานสัมพันธ์อะไรต่อ เพราะผมรู้ว่าเขาคือคนเดียวของผม
มีบ้างที่แอบน้อยใจเพราะจริงๆแล้วผมไม่ใช่สเปคของเขา เขาก็ไม่ใช่สเปคผม
เรามีอะไรกันน้อยมาก เหมือนเขาจะมีความสุขกับการไปมีอะไรกับคนอื่นในแบบที่เขาชอบมากกว่า
แต่เรื่องความสัมพันธ์ทุกอย่างมั่นคง ไม่มีปัญหาอะไร
ผมยอมไม่ตอบสนองความต้องการตัวเองกับใคร เพราะผมทำไม่ได้จริงๆ
วางแผนว่าวันนึงเราจะอยู่กันแบบครอบครัว อนาคตดูสดใสดีในระดับที่คนอื่นอิจฉา
(ผมคิดว่าอย่างนั้นนะ)
พอทำงานก็ได้ทำงานคนละที่ ระยะทางยังคงเป็นปัญหา
เขาก็ยังมีอะไรกับคนอื่นอยู่บ้างแต่น้อยลงเพราะผมเริ่มแสดงท่าทีไม่พอใจบ้าง
แต่ก็ยังไม่ห้าม เพราะผมรู้ว่าเขาเหงา แต่ผมก็เหงา
บางครั้งการไปหากันผมก็อยากมีความสุขกับเขา อยากมีอะไรกันบ้าง
เขาอิดออด แล้วยอมรับว่าเขากลัวติดเชื้อ ไม่อยากให้เรามาเสี่ยงด้วย
แต่ทุกอย่างจะยังเหมือนเดิม
ผมเข้าใจและบอกให้ไปตรวจซะจะได้รู้ไปเลยว่าเป็นหรือไม่ จะได้มาแก้ปัญหากัน
เขาไม่ยอมเพราะกลัวถ้าติดเชื้อจริง อนาคตที่เขาวางไว้จะเสียหมด
รวมถึงอนาคตกับผมด้วย
เขาขอเวลาถึงวันที่โรคเริ่มแสดงอาการ ปฏิเสธการยอมรับความจริง กลัวไปก่อน
เหลือผมที่ยังยืนอยู่ตรงกลาง ตรงที่ผมไม่ยอมถอยกลับ แต่ก็ไปด้วยกันได้ไม่สุด
ปฏิเสธไม่ได้ว่าการมีอะไรกันก็เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตครอบครัว แต่สำหรับผมมันจะไม่มีอีกแล้ว
ถึงคราวที่เขาเป็นฝ่ายยอมให้ผมไปมีอะไรกับใครได้ แต่สัญญาว่าทุกอย่างจะเหมือนเดิม
ผมไม่ยอม จะไปมีอะไรกับคนที่เราไม่รักได้ยังไง แล้ว"เรา"ล่ะ จะทำอย่างไรกันดี?
...ไม่มีคำตอบ...
เขาให้คำตอบตัวเขาเองได้แล้ว แต่ของผมมันยังไม่มีคำตอบ
เพราะผมไม่ยอมถอย แต่เหมือนว่าเรามาด้วยกันมากที่สุดเท่านี้
อยู่ที่ผมจะยืนต่อหรือถอยกลับ ผมยังหาคำตอบไม่ได้
ทุกวันนี้ความสัมพันธ์ก็เหมือนจะเหมือนเดิม
แต่บางครั้งก็รู้สึกว่าเขาให้ความสำคัญกับคนอื่นมากกว่าเรา
บางครั้งผมไปหาก็มีคนอื่นอยู่ในห้องเขา
รู้สึกน้อยใจ แต่ไม่รู้จะทำยังไง เพราะผมยังเหมือนเดิมและก็ยังรู้สึกว่าเขาก็เหมือนเดิมกับเรา
แค่มีอะไรเพิ่มขึ้นมาเท่านั้นเอง
ผมยอมรับว่ามีคนรอผมอยู่ เป็นผู้หญิงคนนึงที่เราต่างคนรู้ใจกันและกันช้าไปหน่อย
ทุกวันนี้ผมก็ยังชอบเขาอยู่ แต่รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้
ผมไม่อยากทำร้ายเขา เพราะผมเองที่เลือกเดินมาบนเส้นทางนี้แล้ว
มีบางครั้งที่รู้สึกสับสน อยากมีครอบครัว
แต่เราก็ได้แต่ย้ำตัวเองว่าเราเลือกเองและไม่ควรถอยกลับ
ทุกวันนี้ก็มีติดต่อกันบ้าง เสียดายที่รู้ใจกันช้าไป
กระทู้นี้ขอแค่ให้ระบายความสับสนบางอย่างในใจ
ส่วนคำตอบผมจะต้องหาเองจนกว่าผมจะเจอ
ปล.ผมอาจจะบ้าที่ทำอะไรแบบนี้ผมก็ยอมรับ
บางทีหัวใจมันอธิบายเรื่องอะไรแบบนี้ไม่ได้เหมือนกันนะครับ